1.สถานี Umeda และสถานี Namba หลงง่ายมาก ระวังเรื่องนี้ให้ดี!
สถานีทั้ง 2 สถานีเป็นสถานีใหญ่ที่เชื่อมรถไฟฟ้าหลายสายเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังมีรถไฟหลายบริษัทร่วมบริการในรางรถไฟเดียวกันอยู่จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ที่เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแนะนำให้คอยสังเกตุป้ายอยู่ตลอดจนกว่าจะถึงชานชาลาที่จะขึ้นรถไฟและสังเกตุจุดหมายปลายทางว่าไปทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่จนกว่าจะไว้ใจได้ห้ามประมาทเด็ดขาด ไม่งั้นอาจจะไปโผล่อีกที่ที่เราไม่รู้จักเลยก็เป็นได้

2.คันไซ ยืนบันไดเลื่อนชิดฝั่งขวา
ที่ภูมิภาคคันไซการยืนบันไดเลื่อนโดยเฉพาะโอซาก้าทุกคนจะยืนชิดฝั่งขวาแล้วให้ฝั่งซ้ายเดินไปก่อน แต่ปัจจุบันได้มีการรณรงค์ให้ทุกคนมายืนฝั่งซ้ายและขวาเท่าๆกันเนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความสมดุลของน้ำหนัก แต่แอดเห็นประกาศมาหลายปีแล้วก็ยังยืนกันเหมือนเดิมอยู่ดี...

3.หากต้องการเดินทางในโอซาก้าแนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดิน
นักท่องเที่ยวเวลามาเที่ยวญี่ปุ่นอาจจะรู้จักแค่รถไฟ JR แต่จะบอกว่าหากเข้ามาเที่ยวในตัวเมืองใหญ่ๆอย่างโอซาก้าแล้วรถไฟที่สะดวกกว่ารถไฟ JR คือรถไฟ OSAKA METRO หรือรถไฟใต้ดินในโอซาก้าเพราะมีสายรถไฟที่ละเอียดกว่าสามารถเดินทางไปได้แทบทุกที่ในโอซาก้าโดยไม่จำเป็นต้องง้อแท็กซี่เลยทีเดียว

4.คนคันไซมีสำเนียงภาษาของตัวเอง
ที่คันไซมีสิ่งที่เสียงว่าสำเนียงคันไซ ที่ถ้าใครพอจะฟังภาษาญี่ปุ่นได้ทั่วไปแล้วไปเจอสำเนียงคันไซครั้งแรกล่ะก็อาจจะมีอาการชะงักได้ไม่ยากเพราะศัพท์ที่ใช้และสำเนียงนั้นต่างจากภาษาคันโตหรือภาษากลางที่หลายๆคนเรียนมา

5.มารยาทในการทานโอโคโนมิยากิ และ คุชิคัทสรึ
ที่ญี่ปุ่นเมนูโอโคโนมิยากิ และ คุชิคัทสรึเป็นเมนูขึ้นชื่อที่ใครมาคันไซต้องได้ลองกันทุกคน แต่อยากจะเตือนก่อนว่าการทานโอโคโนมิยากิมักจะมีเตาด้านหน้าให้ลูกค้าได้ทำเองและพนักงานทำให้ ถ้าเราไปในร้านที่พนักงานทำให้ โปรดนั่งรอด้วยความใจเย็นและระมัดระวังเรื่องเตาเพราะมันร้อนมาก โดยทั่วไปแล้วโอโคโนมิยากิจะใช้เวลาทำอยู่ประมาณ 10 นาที แนะนำให้สั่งของว่างมาทานรอก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว ส่วนคุชิคัทสรึ จะมีน้ำจิ้มของทางร้านอยู่ โปรดจำไว้ว่าจิ้มครั้งเดียวพอ ห้ามกัดแล้วนำไปจิ้มซ้ำเพราะเป็นการเสียมารยาทและผิดสุขอนามัยอย่างยิ่ง ถ้าต้องการตักซอสในร้านจะมีกะหล่ำปลีให้ลูกค้าตักเพื่อเอามาราดคุชิคัทสรึอีกที